FOB (Free On Board) Incoterm

หลักการของ FOB (Free On Board) Incoterm คือ ผู้ขายมีความรับผิดชอบจนกระทั่งสินค้าถูกขนส่งขึ้นเรือที่ท่าเรือขนส่งที่กำหนด เมื่อสินค้าถูกขึ้นเรือแล้ว ความรับผิดชอบจะถูกส่งต่อไปยังผู้ซื้อ ผู้ซื้อจึงรับผิดชอบค่าขนส่ง ค่าประกันภัย และความเสี่ยงต่าง ๆ ตั้งแต่จุดที่สินค้าอยู่บนเรือเป็นต้นไป
ดังนั้น สิ่งที่ลูกค้าจะต้องศึกษาเพื่อการซื้อขายในระดับมาตรฐานสากล คือ
1. ความเสี่ยงหลังจากสินค้าขึ้นเรือเป็นของผู้ซื้อ: ตามกฎของ FOB ความเสี่ยงเกี่ยวกับสินค้าจะย้ายไปที่ผู้ซื้อเมื่อสินค้าถูกส่งขึ้นเรือ หากสินค้ามีความเสียหายหรือสูญหายหลังจากนั้น ความรับผิดชอบจะอยู่ที่ผู้ซื้อ
2. หลักฐานการส่งมอบตามที่ระบุใน FOB: คุณสามารถแสดงหลักฐานการส่งมอบสินค้าที่ขึ้นเรือและผ่านกระบวนการส่งออกตามที่กำหนด ซึ่งรวมถึงเอกสารการจัดส่ง (Bill of Lading) ที่ยืนยันว่าสินค้าอยู่ในสภาพที่ถูกต้อง ณ เวลาที่ขึ้นเรือ
3. การประกันภัยหลังจากสินค้าขึ้นเรือ: เนื่องจากผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบการขนส่งหลังจากสินค้าขึ้นเรือ ผู้ซื้อควรทำประกันภัยสินค้าในกรณีที่เกิดความเสียหาย ดังนั้น หากมีความเสียหายเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง ผู้ซื้อควรติดต่อกับบริษัทประกันของพวกเขา
กฎระเบียบเกี่ยวกับการเคลมสินค้าตามมาตรฐานสากลในกระบวนการส่งสินค้าแบบ FOB
1. วัตถุประสงค์
เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่ชัดเจนสำหรับการเคลมสินค้าในกระบวนการซื้อขายสินค้าแบบ FOB โดยให้ผู้ซื้อและผู้ขายปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างโปร่งใส
2. ขอบเขต
กฎระเบียบนี้ใช้กับการซื้อขายสินค้าแบบ FOB (Free On Board) ซึ่งผู้ขายรับผิดชอบสินค้าจนกระทั่งสินค้าถูกส่งขึ้นเรือ ความเสี่ยงและความรับผิดชอบจะย้ายไปยังผู้ซื้อทันทีหลังจากนั้น
3. เงื่อนไขการเคลมสินค้า
3.1 กรณีผู้ขายรับผิดชอบ
• สินค้าไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา เช่น คุณภาพหรือมาตรฐานสินค้า ก่อนการส่งขึ้นเรือ
• ปัญหาเกิดจากการบรรจุภัณฑ์หรือการจัดเตรียมสินค้าที่ไม่เหมาะสมโดยผู้ขาย
3.2 กรณีผู้ซื้อรับผิดชอบ
• ความเสียหายเกิดขึ้นหลังจากสินค้าถูกส่งขึ้นเรือ เช่น การจัดเก็บที่ไม่เหมาะสมหรือการขนส่ง
• ผู้ซื้อไม่ดำเนินการตรวจสอบหรือทดสอบสินค้า ณ สถานที่ส่งมอบ
3.3 การเคลมสินค้าในทุกกรณี
• ผู้ซื้อมีหน้าที่ถ่าย วิดีโอ เพื่อยืนยันว่าสินค้าที่มีปัญหาเป็นสินค้าจากผู้ขายจริง
• วิดีโอต้องถ่าย ณ สถานที่ส่งมอบสินค้า ทันที และแสดงรายละเอียดชัดเจน เช่น:
• การแกะบรรจุภัณฑ์
• สภาพสินค้า ณ เวลาที่ได้รับ
หากผู้ซื้อไม่มีวิดีโอยืนยันตามข้อกำหนดนี้ การเคลมจะถือเป็นโมฆะ
4. ขั้นตอนการเคลมสินค้า
4.1 การแจ้งปัญหา
• ผู้ซื้อที่พบปัญหาสินค้าต้องแจ้งให้ผู้ขายทราบ ภายใน 7 วันทำการ หลังจากรับสินค้า
• ผู้ซื้อต้องแนบ:
• วิดีโอที่ถ่าย ณ สถานที่ส่งมอบสินค้า
• รายงานเพิ่มเติม เช่น ภาพถ่ายหรือเอกสารการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม
4.2 การตรวจสอบ
• ผู้ขายตรวจสอบหลักฐานที่ได้รับ และมีสิทธิ์แต่งตั้งบุคคลที่สามเพื่อประเมินกรณีพิพาท
• หากวิดีโอที่ส่งมาไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ผู้ขายมีสิทธิ์ปฏิเสธการเคลม
4.3 การตัดสินใจ
• หากปัญหาเป็นความรับผิดชอบของผู้ขาย:
• ผู้ขายต้อง คืนเงินบางส่วน/เต็มจำนวน หรือ
• จัดส่งสินค้าใหม่
• หากปัญหาเป็นความรับผิดชอบของผู้ซื้อ หรือไม่มีวิดีโอที่ถูกต้องตามข้อกำหนด ผู้ขายสามารถปฏิเสธการเคลมได้
5. ข้อกำหนดเพิ่มเติม
5.1 การจัดส่งพร้อมใบรับรองคุณภาพ
• ผู้ขายต้องแนบใบรับรองคุณภาพสินค้าและรายงานทดสอบจากแล็บมาตรฐานของโรงงานมากับสินค้า
5.2 หน้าที่ของผู้ซื้อในการตรวจสอบสินค้า
• ผู้ซื้อมีหน้าที่
• ส่งบุคคลมาตรวจสอบ ณ สถานที่ส่งมอบ หรือ
• จ้างบริษัทภายนอกมาตรวจสอบ
• หากผู้ซื้อไม่ดำเนินการตรวจสอบตามกำหนด จะถือว่าผู้ซื้อ ยอมรับสินค้า
5.3 วิดีโอเป็นหลักฐานบังคับ
• วิดีโอต้องถ่าย ทันที ณ สถานที่ส่งมอบ โดยแสดง:
• สินค้าในบรรจุภัณฑ์
• การแกะบรรจุภัณฑ์
• สภาพสินค้า ณ ขณะรับสินค้า
หากไม่มีวิดีโอที่ชัดเจน การเคลมสินค้าจะถือเป็น โมฆะ
6. ข้อกำหนดในการแก้ไขข้อพิพาท
• หากเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับการเคลมสินค้า ทั้งสองฝ่ายสามารถเลือกใช้การเจรจา อนุญาโตตุลาการ หรือดำเนินการตามกฎหมายที่ระบุในสัญญา
7. การบังคับใช้
กฎระเบียบนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาการซื้อขาย FOB และบังคับใช้กับธุรกรรมทั้งหมด
การเพิ่มเงื่อนไขเกี่ยวกับวิดีโอในกฎระเบียบนี้ช่วยลดข้อโต้แย้งและเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการเคลมสินค้า